ข้อมูลทั่วไป จังหวัดชลบุรี
จังหวัดชลบุรี เรียกกันสั้น ๆ ว่า “เมืองชล” เป็นจังหวัดท่องเที่ยวชายทะเลตะวันออกที่มีชื่อเสียงมาช้านาน เป็นแหล่งเกษตรกรรมปลูกพืชเศรษฐกิจได้แก่ อ้อย มันสำปะหลัง และยางพารา รวมทั้งเป็นที่ตั้งท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และแหล่งอุตสาหกรรมโรงงานที่สำคัญ
เมืองชลบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 80 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 4,363 ตารางกิโลเมตร แบ่งการปกครองออกเป็น 10 อำเภอ และ 1 กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมืองชลบุรี อำเภอหนองใหญ่ อำเภอพนัสนิคม อำเภอบ้านบึง อำเภอพานทอง อำเภอบ่อทอง อำเภอศรีราชา อำเภอบางละมุง อำเภอสัตหีบ อำเภอเกาะสีชัง และกิ่งอำเภอเกาะจันทร์ สำหรับ พัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ และมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องมีการบริหารปกครองท้องถิ่นแบบพิเศษ เรียกว่า เมืองพัทยา โดยแยกออกจากการปกครองของอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี
ประวัติและความเป็นมา :
ชื่อเสียงของเมือง ชลบุรี ในฐานะเมือง ท่องเที่ยว ชายทะเล ทำให้หลายคนคงนึกไม่ถึงว่า ชลบุรี จะเป็นเมืองหนึ่ง ที่มีความเก่าแก่มาตั้งแต่ก่อนสมัย สุโขทัย และเคยมีชุมชน ของคนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อยู่ด้วย น่าเสียดาย ที่หลักฐาน ทางโบราณสถาน และ โบราณวัตถุ ในหลายๆ แห่ง สูญหายไป และคงเหลืออยู่ในปัจจุบัน น้อยมาก
บริเวณที่ลุ่มริมฝั่งลำน้ำพานทอง ซึ่งไหลจากที่สูง ในเขต อ.พนัสนิคม ไปออก แม่น้ำบางปะกง เคยมีคนในยุคหินใหม่ อาศัยอยู่ โดยพบ หลักฐานสำคัญ ที่บริเวณโคกพนมดี ต.ท่าข้าม อ.พนัสนิคม คนกลุ่มนี้ ใช้ขวานหินขัด เครื่องประดับ พวก กำไลลูกปัด เครื่องปั้นดินเผา แบบเชือกทาบ และกินอาหาร จากทะเล เช่น หอยแครง ปู ปลา เป็นอาหารหลัก แสดงว่า สมัยนั้น พื้นที่นี้อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลกว่าปัจจุบันมาก
ที่ ต.หน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม เมื่อประมาณ 1,400-700 ปีก่อน มีเมืองพระรถ ตั้งอยู่ บริเวณนี้มีลำน้ำสายต่างๆ จากที่สูงมารวมกันเป็นลำน้ำพานทอง สามารถเดินทางตามลำน้ำไปติดต่อกับชุมชนอื่นๆ ในสมัยนั้น เช่น เมืองศรีมโหสถ ใน จ.ปราจีนบุรี และ ไปถึงอรัญประเทศได้ เมืองพระรถ จึงเป็นเมืองศูนย์กลางการคมนาคมในท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางเดินบก ไป ระยอง และ จันทบุรี ผ่านเมืองพญาเร่ ซึ่งเป็นเมืองโบราณ อีกเมืองหนึ่ง ในพื้นที่จังหวัด ชลบุรี ด้วย เมืองพระรถ อยู่ในสมัยทวารวดี ถึงสมัย ลพบุรี
ถ้ามาจากเมืองพระรถ ไปตามลำน้ำพานทอง จนออกทะเล ที่ปากแม่น้ำบางปะกง บริเวณนี้ มีชุมชนที่ต่อมา พัฒนาเป็นเมืองขึ้น เมื่อ 600 ปีก่อน ชื่อเมืองศรีพโล ในสมัยสุโขทัย เมืองศรีพโล เป็นเมืองท่าชายทะเล เรือสำเภาจากจีน เวียดนาม และ กัมพูชา เดินทางมาจอดพักสินค้า ก่อนเดินทางต่อไปยังปากแม่น้ำเจ้าพระยา และ จอดพักก่อนกลับ หรือ ข้ามอ่าวไทย ไปทางใต้ ปัจจุบัน กำแพงเมือง ศรีพโล ถูกทำลายไปหมด เนื่องจากการสร้าง ถ.สุขุมวิท
เมืองศรีพโล เป็นเมืองท่า มาจนถึงสมัยอยุธยาตอนต้น ก็หมดความสำคัญลง อาจเพราะอ่าวเมืองศรีพโล ที่เคยเป็นฝั่งทะเลลึกเกิดตื้นเขินขึ้น เนื่องจากตะกอนแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มาทับถมมากขึ้นเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ ชุมชนจึงเคลื่อนย้ายลงมาทางใต้ ที่ ต.บางปลาสร้อย ซึ่งมีสภาพชายทะเล และทำเล ที่จอดเรือดีกว่า บางปลาสร้อย นี้ก็คือ ที่ตั้งของเมืองชลบุรี ในปัจจุบันนั่นเอง
ในแผนที่ ไตรภูมิ สมัยกรุงศรีอยุธยา มีชื่อตำบลสำคัญของ ชลบุรี เรียงจากเหนือลงใต้ คือ บางทราย บางปลาสร้อย บางพระเรือ (ปัจจุบันคือ บางพระ) และบางละมุง ส่วนในทำเนียบศักดินาหัวเมือง มีชื่อเมือง ชลบุรี ว่าเป็นเมืองชั้นจัตวา ที่วัดใหญ่อินทาราม ซึ่งอยู่ในตัวเมือง ชลบุรี มีภาพเขียนสมัย อยุธยา ตอนปลาย แสดงถึงชีวิต ความเป็นอยู่ของชาว อยุธยา ชาวต่างชาติ ทั้งฝรั่ง และ จีน ภาพปราสาทราชวัง ฝีมือเขียนภาพงดงามมาก และ เป็นบันทึกหลักฐานอย่างดี ของเมืองท่าแห่งนี้
ในสมัยรัชกาลที่ 3 พระอินทอาษา ชาวนครเวียงจันทน์ พาชาวลาว มาขอพึ่งพระบรมโพธิสมภาร รัชกาลที่ 3 จึงโปรดเกล้าฯ ให้ไปอยู่ในที่ระหว่างเมืองชลบุรี กับ ฉะเชิงเทรา ต่อมา จึงตั้งขึ้น เป็นเมืองพนัสนิคม ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมืองพนัสนิคม และ เมืองบางละมุง ถูกยุบเป็นอำเภอ ขึ้นต่อ เมืองชลบุรี และเป็นอำเภอหนึ่งของ ชลบุรี มานับแต่นั้น
ชลบุรี มีความสำคัญในฐานะเมืองท่า นับเป็นเวลายาวนานหลายร้อยปี จากสมัยสุโขทัย มาถึงสมัย รัตนโกสินทร์ และกระทั่งปัจจุบัน ก่อนที่จะมามีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะเมืองตากอากาศชายทะเล เช่นทุกวันนี้
อาณาเขต :
ทิศเหนือ ติดต่อกับ จ.ฉะเชิงเทรา
ทิศใต้ ติดต่อกับ จ.ระยอง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ จ.ฉะเชิงเทรา จ.จันทบุรี และ จ.ระยอง
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ ทะเลฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย
การเดินทาง
• รถยนต์ จากกรุงเทพ ฯ สามารถเดินทางไปจังหวัดชลบุรีได้หลายเส้นทาง คือ
1. ใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด ทางหลวงหมายเลข ๓๔ เข้าสู่จังหวัดชลบุรี
2. ใช้เส้นทางสายกรุงเทพฯ-มีนบุรี ทางหลวงหมายเลข ๓๐๔ ผ่านจังหวัดฉะเชิงเทรา-บางปะกง เข้าสู่จังหวัดชลบุรี
3 ใช้เส้นทางสายเก่า ถนนสุขุมวิท ทางหลวงหมายเลข ๓ ผ่านจังหวัดสมุทรปราการ ไปจนถึงแยกอำเภอบาง ปะกง และให้แยกเข้าสู่เส้นทางหมายเลข ๓๔ ไปจนถึงจังหวัดชลบุรี
4. ใช้เส้นทางหลวงพิเศษ (MOTOR WAY) สายกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา โทร. ๑๑๙๓, ๐ ๓๘๓๙ ๒๐๐๑
• รถโดยสารประจำทาง จาก สถานีขนส่งสายตะวันออก (เอกมัย) มีบริการรถโดยสารปรับอากาศไปชลบุรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๕.๓๐-๒๑.๐๐ น. รถออกทุก ๔๐ นาที โทร. ๐ ๒๓๙๑ ๙๘๒๙ รถโดยสารปรับอากาศชั้น ๒ มีบริการระหว่างเวลา ๐๕.๐๐-๒๑.๐๐ น. ออกทุก ๓๐ นาที โทร. ๐ ๒๓๙๑ ๒๕๐๔ รถโดยสารธรรมดามีบริการตั้งแต่เวลา ๐๕.๐๐-๒๑.๐๐ น. ออกทุก ๓๐ นาที โทร. ๐ ๒๓๙๑ ๒๕๐๔ หรือจะขึ้นรถที่ สถานีขนส่งหมอชิต ๒ ก็ได้ มีรถโดยสารปรับอากาศ วิ่งเส้นมอเตอร์เวย์ มีรถออกตั้งแต่เวลา ๐๖.๓๐-๑๘.๓๐ น. โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๒๘๕๒-๖๖ หรือ www.transport.co.th
นอกจากนั้นยังมีบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการ ออกจาก สถานีขนส่งสายใต้ เป็นรถโดยสารปรับอากาศไปพัทยาทุกวัน วิ่งเส้นบางนา-ตราด รถไปจอดที่ สถานีรถปรับอากาศ ถนนพัทยาเหนือ ของ บริษัท รถรุ่งเรือง จำกัด เริ่มตั้งแต่เวลา ๐๕.๓๐-๑๘.๓๐ น. รถออกทุก ๒ ชั่วโมง โทร. ๐ ๒๘๘๔ ๕๕๘๒ สาขาพัทยา โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๙๘๗๗
• รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีบริการรถไฟไปจังหวัดชลบุรีทุกวัน ๆ ละ ๑ เที่ยว ไปสิ้นสุดที่สถานีรถไฟ พลูตาหลวง สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๐ ๔๔๔๔, ๐ ๒๒๒๒ ๔๓๓๔ หรือ www.railway.co.th
• ระยะทางจากอำเภอเมืองไปอำเภอต่าง ๆ ของจังหวัดชลบุรี
บ้านบึง ๑๔ กิโลเมตร
พนัสนิคม ๒๒ กิโลเมตร
พานทอง ๒๔ กิโลเมตร
ศรีราชา ๒๔ กิโลเมตร
เกาะสีชัง ๓๕ กิโลเมตร
บางละมุง ๔๕ กิโลเมตร
สัตหีบ ๘๖ กิโลเมตร
บ่อทอง ๕๖ กิโลเมตร
หนองใหญ่ ๕๑ กิโลเมตร
• ระยะทางจากจังหวัดชลบุรีไปจังหวัดใกล้เคียง
ฉะเชิงเทรา ๔๓ กิโลเมตร
สมุทรปราการ ๖๔ กิโลเมตร
ระยอง ๙๘ กิโลเมตร
จันทบุรี ๑๖๔ กิโลเมตร
ตราด ๒๓๔ กิโลเมตร
แผนที่จังหวัดชลบุรี
แผนที่ตัวเมืองชลบุรี
ข้อมูลท่องเที่ยว อำเภอเมือง : อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
อำเภอเมือง
• วัดเขาพระพุทธบาทบางทราย ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทด้านซ้ายมือก่อนจะถึงตัวเมืองชลบุรีเล็กน้อย เดิมมีวัดโบราณสมัยอยุธยาอยู่เชิงเขาแต่ผุพังไปหมดแล้ว ต่อมาพระยาพิชิตชลเขตผู้กำกับราชการเมืองชลบุรีได้สร้างวัดพระพุทธบาทบาง ทรายขึ้นใหม่ ในรัชกาลที่ ๕ วัดนี้มีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทและตึกหลังเล็กภายในมีพระพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่บนยอดเขา บริเวณที่ตั้งอยู่บนเชิงเขามีสิ่งก่อสร้างที่เป็นทรงยุโรปสมัยรัชกาลที่ ๕ อยู่หลายหลัง ในช่วงวันสิ้นเดือน ๔ จนถึงวันขึ้น ๒ ค่ำ เดือน ๕ มีประเพณีเดินขึ้นไปไหว้พระพุทธบาทบางทราย และยังมีงานประเพณีตักบาตรรเทโวเทศกาลออกพรรษาด้วย
• วัดใหญ่อินทราราม ตั้งอยู่บนถนนเจตน์จำนงค์ในตัวเมืองชลบุรี เป็นวัดสำคัญเก่าแก่คู่เมืองชลบุรี มีสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย คือ พระอุโบสถฐานโค้งแอ่นท้องสำเภา ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามมาก เหนือขอบหน้าต่างเป็นภาพเทพชุมนุม ที่ผนังทั้งสองด้านเขียนเรื่องทศชาติชาดก พระเวสสันดรชาดก และยังมี พลับพลาตรีมุข สร้างด้วยไม้ประดิษฐานพระพุทธรูปหล่อสำริดทรงเครื่องกษัตริย์ เรียกกันว่า หลวงพ่อเฉย
• หอพระพุทธสิหิงค์ ตั้งอยู่บนถนนวชิรปราการ ในตัวเมือง ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์จำลอง (องค์จริงประดิษฐานอยู่ที่พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ) ทำด้วยเงินบริสุทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงาม และมีขนาดเท่าองค์จริงทุกประการ หล่อขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้สักการะทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. ในวันสงกรานต์จะอัญเชิญองค์พระแห่รอบเมืองให้ประชาชนได้สรงน้ำเพื่อเป็นสิริมงคล
• วัดธรรมนิมิตต์ ตั้ง อยู่ที่ตำบลบ้านสวน บนถนนสายชลบุรี-พนัสนิคม ห่างจากตัวเมืองประมาณ ๑ กิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมงคลนิมิตต์ พระพุทธรูปคอนกรีตประดับด้วยกระเบื้องโมเสก ปางประทับเรือ (ประทับนั่งบนบัลลังก์ ห้อยพระบาท พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระเพลา พระหัตถ์ขวาห้องอยู่ข้างพระองค์) ขนาดความสูง ๓๔ เมตรอยู่เชิงเขา หากเดินขึ้นไปยังยอดเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองชลบุรีได้
• อ่างศิลา เป็น หมู่บ้านประมงริมทะเล อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรีประมาณ ๕ กิโลเมตร เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงหอยนางรมและหอยแมลงภู่ มีร้านอาหารทะเล และร้านขายสินค้าพื้นเมือง ที่ขึ้นชื่อได้แก่ ครกหิน ซึ่งชาวจีนแต้จิ๋วซึ่งอพยพเข้ามาหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ เป็นผู้ริเริ่มนำหินเนื้อละเอียดที่มีอยู่มากมายแถบอ่างศิลามาแกะสลัก ปัจจุบันมีการแกะสลักเป็นลูกนิมิต ช้าง ม้า สิงห์ และตุ๊กตาตกแต่งสวน นอกจากนี้อ่างศิลายังเคยเป็นสถานตากอากาศชายทะเลเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง มีตำหนักที่ประทับริมทะเลสมัยรัชกาลที่ ๕ สถาปัตยกรรมแบบยุโรป ให้เห็นอยู่
• วิหารเทพสถิตพระกิติเฉลิม เป็น ศาลเจ้าจีนที่ก่อสร้างอย่างสวยงามใหญ่โต ตั้งอยู่ริมเส้นทางเลียบชายทะเลจากอ่างศิลาไปเขาสามมุข มีตึก ๔ ชั้น ภายในโอ่โถงตระการตาด้วยสถาปัตยกรรมแบบจีน ประดิษฐานรูปเคารพของเทพเจ้าจีนมากมายหลายองค์ เช่น เทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ เจ้าแม่กวนอิมพันมือ เป็นต้น เมื่อเดินขึ้นไปชั้นบนสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ชายทะเลได้สวยงาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๙ ๘๓๘๑-๔, ๐ ๓๘๓๙ ๘๓๙๙
• เขาสามมุข สัญลักษณ์ในดวงตราประจำจังหวัดชลบุรี เป็นเนินเขาเตี้ย ๆ อยู่กึ่งกลางระหว่างบ้านอ่างศิลา และหาดบางแสน เชิงเขาเป็นที่ตั้งศาลเจ้าแม่เขาสามมุข ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของคนทั่วไป บริเวณเขาสามมุขมีลิงป่าอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก หากขับรถไปขึ้นไปบนเขาจะมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลบางแสนได้สวยงาม
• สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล อยู่ติดกับมหาวิทยาลัยบูรพา ก่อนถึงชายหาดบางแสน มีเนื้อที่ ๓๐ ไร่ ภายในแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทางทะเล สถานเลี้ยงสัตว์น้ำเค็ม ซึ่งมีสัตว์ทะเลนานาชนิดจัดแสดงไว้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจและห้องปฏิบัติการวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเล เปิดให้เข้าชมทุกวันเว้นวันจันทร์ เวลา ๐๘.๓๐-๑๖.๐๐ น. วันหยุดราชการเปิดถึง ๑๗.๐๐ น. สาธิตดำน้ำให้อาหารปลาเวลา ๑๔.๓๐ น. วันหยุดเพิ่มรอบ ๑๐.๓๐ น. อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ๓๐ บาท เด็ก ๑๕ บาท ต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๙ ๑๖๗๑-๓
• หาดบางแสน อยู่ห่างจากตัวเมืองชลบุรี ๑๔ กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิท ตรงหลัก กม. ๑๐๔ เข้าไป ๓ กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยที่มีชื่อเสียงมาช้านาน มีถนนตัดเลียบชายหาด ซึ่งเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและที่พัก มีเก้าอี้ผ้าใบสำหรับพักผ่อนรับประทานอาหารใต้ร่มเงาทิวมะพร้าว มีห่วงยางว่ายน้ำ บาบาน่าโบ๊ต จักรยานให้เช่า และห้องอาบน้ำจืด ทุกวันหยุดจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย เนื่องจากอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯจึงสามารถมาเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้
• การเดินทางจากกรุงเทพฯ มีรถโดยสารสายกรุงเทพฯ-บางแสน ออกจากสถานีขนส่งเอกมัยทุกวัน หรือ ขึ้นรถสายกรุงเทพฯ-ชลบุรี ลงที่สี่แยกเฉลิมไทยในตัวเมืองชลบุรีแล้วต่อรถสองแถวไปยังหาดบางแสน
• แหลมแท่น อยู่ บริเวณหาดบางแสนเลยมาทางเขาสามมุข มีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปไม่มากนัก มีศาลาพักผ่อนและร้านอาหาร ที่บริเวณนี้จะมีผู้คนมาตกปลากันมากและมีประติมากรรมรูปปลาโลมาที่สวยงาม
• ตลาดหนองมน อยู่ริมถนนสุขุมวิท ห่างจากทางแยกเข้าหาดบางแสนประมาณ ๑ กิโลเมตร เป็นแหล่งรวมของกินของฝากจากเมืองชล ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสดและแปรรูป เช่น ปลาเค็ม ปลาแห้ง กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง กะปิ น้ำปลา อาหารพื้นถิ่น เช่น ห่อหมก ทอดมัน แจงลอน และขนมหวานนานาชนิด เช่น ข้าวหลาม ขนมจาก ขนมไทยต่าง ๆ
• ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและอนุรักษ์ป่าชายเลนเพื่อการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๓ ตำบลเสม็ด มีเนื้อที่ประมาณ ๓๐๐ ไร่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ที่น่าสนใจ โดยทางศูนย์ฯ ได้จัดทำสะพานไม้ยาวประมาณ ๒,๓๐๐ เมตร เพื่อให้เดินชมธรรมชาติในป่าชายเลนที่ยังคงความสมบูรณ์ที่สุดของระบบนิเวศน์ป่าชายเลน มีหอดูนก มีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ อาทิ ต้นโกงกาง เสม็ด แสม ลำพู เป็นต้น ตลอดจนสัตว์น้ำ อาทิ ปูก้ามดาบ ปูพันธุ์ใหม่ “หยกฟ้า” และนกกินปลานานาชนิดจำนวนมาก และบริเวณด้านหน้าของศูนย์ฯ ได้ทำเป็นสวนสุขภาพไว้ด้วย อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ ๑๐ บาท เด็ก ๕ บาท เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๘.๓๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๙ ๘๒๖๘-๙, ๐ ๑๗๑๓ ๙๖๘๓
• การเดินทาง ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท จากตัวเมืองชลบุรีใช้เส้นทางเดียวกับไปองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ตรงไปจนสุดทาง ประมาณ ๔ กิโลเมตร
อำเภอศรีราชา
• เกาะลอยศรีราชา ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล ทางทิศเหนือของตลาดศรีราชา เป็นเกาะเล็ก ๆ ใกล้ชายฝั่ง ซึ่งมีสะพานคอนกรีตเชื่อมระหว่างชายฝั่งกับเกาะลอย รถเข้าถึงเกาะได้โดยสะดวก มีเนื้อที่ราว ๓ ไร่เศษ บนเกาะมีสวนสาธารณะและสวนเต่าทะเล มีบันไดทางเดินขึ้นไปยังวัดที่อยู่บนยอดเขา
• สวนเสือศรีราชา อยู่ห่างจากตลาดศรีราชา (ทางไปโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา) ไปตามทางหลวงหมายเลข ๓๒๔๑ ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวประเภทสวนสัตว์ มีฟาร์มเพาะเลี้ยงเสือโคร่งพันธุ์เบงกอลกว่า ๒๐๐ ตัว รวมทั้งฟาร์มจระเข้ และสัตว์อื่น ๆ อีกนานาชนิด นักท่องเที่ยวจะได้ชมการอยู่ร่วมกันของเสือกับหมูและสุนัข มีการแสดงการจับจระเข้ ละครสัตว์ การแข่งขันหมูวิ่ง ราชินีแมงป่อง สวนเสือศรีราชาเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๘.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๓๐๐ บาท เด็ก ๑๕๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๙ ๖๕๕๖-๘ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๙๓๔ ๗๘๔๑, ๐ ๒๙๓๔ ๖๖๗๖ www.tigerzoo.com
• สวนผีเสื้อสายทิพย์ ตั้งอยู่บริเวณ กม. ๑๐ ทางหลวงหมายเลข ๓๖ หากมาจากถนนสุขุมวิทแยกซ้ายบริเวณตลาดบางพระตามทางที่จะไปสวนสัตว์เขาเขียว เป็นสวนผีเสื้อที่ใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย ภายในมีส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตผีเสื้อ ชนิดของผีเสื้อ มีฟาร์มผีเสื้อท่ามกลางสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ปลูกไว้สวยงาม มีผีเสื้อหลากหลายพันธุ์ที่เพาะเลี้ยงไว้นับพันตัว ที่โดดเด่นคือ ผีเสื้อเอ็ดเวิร์ด ซึ่งเป็นผีเสื้อท้องถิ่นขนาดใหญ่และลวดลายสวยงาม นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ผึ้ง สวนกล้วยไม้ ร้านขายของที่ระลึก เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๗.๓๐ น. ค่าเข้าชมคนไทย ๕๐ บาท เด็ก ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๑๐๐ บาท เด็ก ๖๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๙ ๘๓๒๙-๓๐
• สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ตั้ง อยู่ที่ตำบลบางพระ ในเนื้อที่ประมาณ ๕,๐๐๐ ไร่ สามารถเดินทางเข้าถึงได้ ๒ เส้นทาง คือ จากถนนสุขุมวิทไปประมาณ ๑๙ กิโลเมตร ผ่านอ่างเก็บน้ำและสนามกอล์ฟบางพระ หรือจากทางหลวงหมายเลข ๓๖ จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ สวนสัตว์แห่งนี้ดำเนินการโดยองค์การสวนสัตว์ มีสัตว์ป่าต่าง ๆ จากแถบเอเชียและแอฟริกา ให้ชมมากกว่า ๒๐๐ ชนิด นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่นหรือนั่งรถชมสัตว์ได้อย่างใกล้ชิด เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๘.๐๐-๑๘.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชมผู้ใหญ่ ๕๐ บาท เด็ก ๑๕ บาท และมีการแสดงความสามารถของสัตว์ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐-๑๖.๐๐ น. เช่น เหยี่ยวโฉบเหยื่อ นกมาคอว์ปั่นจักรยาน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมชมสัตว์ตอนกลางคืน หรือ ไนท์ซาฟารี ทุกวัน ระหว่างเวลา ๑๘.๐๐-๒๑.๐๐ น. ซึ่งจะพบเห็นพฤติกรรมของสัตว์ที่หากินยามกลางคืน เช่น ละอง ละมั่งฝูงใหญ่ วัวแดง กระทิง หมีขอ นกแสก สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๙ ๘๑๙๕, ๐ ๓๘๒๙ ๘๒๗๐
• น้ำตกชันตาเถร เป็น น้ำตกในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ อยู่ห่างจากถนนสุขุมวิท ไปประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ตามทางหมายเลข ๓๑๔๔ ทางไปวัดเขาไม้แดง มีป้ายบอกทางเป็นระยะ เมื่อถึงลานจอดรถต้องเดินเท้าอีก ๗๐๐ เมตร สามารถเช่ารถสองแถวจากตลาดบางพระได้ น้ำตกแห่งนี้มีความสูงถึง ๕ ชั้น ชั้นที่ ๔ มีความสวยงามที่สุด ซึ่งต้องเดินเท้าประมาณ ๑ กิโลเมตร ส่วนชั้นที่ ๕ ต้องปีนป่ายขึ้นไป มีน้ำเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน เปิดให้เข้าเที่ยวชมระหว่างเวลา ๐๖.๐๐-๑๖.๐๐ น. ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคมเหมาะที่จะมาดูนก โดยเฉพาะนกเงือก ผู้สนใจจัดกิจกรรมค่ายเยาวชนเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติส่งจดหมายถึงหัวหน้าสถานี พัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาเขียว ตู้ ป.ณ. ๑๐ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ๒๐๒๑๐
อำเภอเกาะสีชัง
• เกาะสีชัง เป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ ๑๒ กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปยังจุดอื่น ๆ บนเกาะสีชัง
จุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง ได้แก่
• ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเขาห่างจากท่าเรือเทววงศ์ไปทางด้านเหนือของเกาะ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถาน ที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทย จากบริเวณศาลมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะได้ชัดเจน
• มณฑปรอยพระพุทธบาท อยู่สูงขึ้นไปบนยอดเขาเดียวกับศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รัชกาลที่ ๕ ทรงอัญเชิญมาประดิษฐานไว้ บนยอดเขาเป็นจุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ
• ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ด้านหลังของเกาะ หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขา ในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลม ซึ่งเต็มไปด้วยหินกลม ๆ ขนาดต่าง ๆ มากมาย ในอดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ ๕
• พระจุฑาธุชราชฐาน ห่างจากท่าเทววงศ์ลงมาทางใต้ของเกาะ สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ เพื่อเป็นที่ประทับในฤดูร้อน ภายในบริเวณมีสภาพภูมิทัศน์ที่งดงาม ด้านหน้าเป็นชายหาดท่าวัง ถัดขึ้นไปเป็นตึกวัฒนา พระตำหนักทรงปั้นหยา เรือนไม้ลวดลายขนมปังขิง ตึกผ่องศรีหรือศาลาแปดเหลี่ยม ตึกอภิรมย์ และวัดวัดอัษฎางค์นิมิตรบนยอดเขาซึ่งก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมตะวันตก ส่วนพระราชวังซึ่งทำด้วยไม้สักได้รื้อไปก่อสร้างเป็นพระที่นั่งวิมานเมฆ ที่กรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ได้แก่ สระน้ำ บ่อน้ำ สะพานท่าเทียบเรือ และประภาคาร
• หาดถ้ำเขาพัง ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของเกาะ เป็นชายหาดกว้าง สะอาดและสวยงาม มีทรายละเอียด น้ำใสสะอาดเหมาะแก่การเล่นน้ำ
การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะ เนื่องจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชังอยู่ห่างกันพอสมควร จะสะดวกมากหากจะเช่ารถสามล้อเครื่องจากท่าเทียบเรือไปชมสถานที่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษก็เที่ยวได้ทั่วเกาะ ค่าเช่ารถสามล้อเครื่อง คิดเป็นรอบ ๆ ละประมาณ ๑๕๐-๒๕๐ บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและระยะทาง
• การเดินทาง จากกรุงเทพฯไปเกาะสีชัง ขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยไปศรีราชา โดยลงรถที่หน้าห้างโรบินสัน ศรีราชา แล้วต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างหรือสามล้อเครื่องมายังท่าเรือจรินทร์
บริเวณท่าเรือเกาะลอยศรีราชา ถนนเจิมจอมพลในอำเภอศรีราชา มีเรือโดยสารไปเกาะสีชังทุกวัน ระหว่างเวลา ๐๗.๐๐-๒๐.๐๐ น. ออกทุก ๆ ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาประมาณ ๔๕ นาที อัตราค่าโดยสาร คนละ ๔๐ บาท และจากเกาะสีชังมีเรือบริการข้ามมายังฝั่งศรีราชา ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๖.๐๐-๑๘.๐๐ น. มีเรือออกทุก ๆ ชั่วโมง รายละเอียดสอบถาม เรือสีชังพาเลซ โทร. ๐ ๓๘๒๑ ๖๒๗๖-๘๒ หรือ เรือแสงประทีปบริการ โทร. ๐ ๓๘๓๑ ๓๖๘๗
• เกาะขามใหญ่ อยู่ด้านหน้าเกาะสีชัง ห่างจากเกาะสีชังไปประมาณ ๕ นาที เรือโดยสารที่ไปเกาะสีชังจะแวะจอดที่เกาะขามใหญ่ บนเกาะเป็นหมู่บ้านชาวประมง มีบริการที่พักรับรองนักท่องเที่ยวแบบโฮมสเตย์ (Homestay) ซึ่งมีกิจกรรมตกปลา หาหอยนางรมและตกปลาหมึก
• เกาะท้ายค้างคาว เป็นเกาะเล็ก ๆ ด้านทิศใต้ของเกาะสีชัง มีหาดทรายและปะการัง นั่งเรือท่าเทววงศ์ไปประมาณครึ่งชั่วโมง ค่าเช่าเรือประมาณ ๘๐๐ บาท บนเกาะมีที่พักบริการ
อำเภอบางละมุง
• อันเดอร์วอเตอร์ เวิล์ด ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท-หนองปรือ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ปลาทะเลในด้านอ่าวไทย นักท่องเที่ยวสามารถเดินลอดผ่านอุโมงค์แก้วใส เห็นปลาประเภทต่าง ๆ ที่ว่ายอยู่รอบ ๆ ได้ถึง ๑๘๐ องศา ตัวอุโมงค์มีความยาว ๑๐๕ เมตร โดยแบ่งออกเป็น ๓ โซน โซนแรก ได้แก่ โซนปะการัง มีปลาสวยงามที่หาดูได้ยาก เช่น ปลาสินสมุทร ปลาพยาบาล ปลาผีเสื้อ โซนที่สอง ได้แก่ โซนปลากระดูกอ่อน เช่น ปลาฉลาม ปลากระเบน และ โซนที่สาม ได้แก่ โซนเรืออับปาง มีปลาประมงประเภทต่าง ๆ เช่น ปลาเก๋า ปลาจะระเม็ด นอกจากนี้ยังมีการแสดงให้อาหารสัตว์ทะเลทั้งบนผิวน้ำ และดำลงไปให้อาหารใต้น้ำเป็นรอบ ๆ ในแต่ละโซน สถานที่แห่งนี้เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ น. (ปิดจำหน่ายตั๋ว ๑๗.๓๐ น.) อัตราค่าเข้าชม นักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๑๘๐ บาท เด็ก ๑๒๐ บาท (เด็กต่ำกว่า ๙๐ ซม. ฟรี) ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๓๖๐ บาท เด็ก ๑๘๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๗๕ ๖๘๗๙ โทรสาร ๐ ๓๘๗๕ ๖๘๗๙
• บ้านสุขาวดี ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ ๒๑๙ หมู่ ๒ ถนนสุขุมวิท เป็นบ้านของ ดร. ปัญญา โชติเทวัญ ในวันจันทร์-ศุกร์ จะเปิดให้เข้าชมเฉพาะบริเวณด้านนอกของบ้าน แต่ในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะเปิดให้เข้าไปชมภายในตัวบ้านชั้นที่ ๑ และชั้นดาดฟ้า ให้เข้าไปสักการะเจ้าแม่กวนอิม และหากท่าน ดร. ปัญญาไม่ติดภาระกิจใด ๆ ในช่วงวันหยุดท่านก็จะบรรยายให้ฟังอีกด้วย การเดินทาง บ้านสุขาวดีอยู่อำเภอบางละมุงทางด้านชายฝั่งทะเล ใกล้กับโรงแรมชลจันทร์ และอยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการอำเภอบางละมุง โทร. ๐ ๓๘๒๒ ๓๕๓๖-๙
เมืองพัทยา
• พัทยา เป็นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายทั้งทางบก และทางน้ำ จุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยว เริ่มจากการที่ทหารอเมริกันได้แวะขึ้นฝั่ง และเช่าบ้านพักตากอากาศที่พัทยาเป็นประจำทุกสัปดาห์ ต่อมาพัทยาจึงได้เปลี่ยนสภาพจากหมู่บ้านชายทะเลที่เงียบสงบมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศ และพัฒนาเป็นเมืองท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
• การเดินทางจากกรุงเทพฯไปพัทยา สามารถใช้เส้นทางหลวงหมายเลข ๓ (บางนา-ตราด) มีแยกขวาเข้าพัทยา หรือเดินทางไปตามเส้นทางหลวงพิเศษ (MOTOR WAY) ถ้าใช้บริการของรถปรับอากาศ ขึ้นรถได้ทั้งที่สถานีขนส่งเอกมัย และที่สถานีขนส่งหมอชิต ๒ สอบถามรายละเอียดที่สถานีขนส่งเอกมัย โทร. ๐ ๒๓๙๑ ๒๕๐๔ และ โทร. ๐ ๒๓๙๑ ๙๘๒๙ หรือที่สถานีขนส่งหมอชิต ๒ โทร. ๐ ๒๙๓๖ ๒๘๕๒-๖๖ หรือ www.transport.co.th นอกจากนี้ยังมีรถไฟสายกรุงเทพฯ-พัทยา-พลูตาหลวง ออกจากหัวลำโพงวันละ ๑ เที่ยว โทร. ๑๖๙๐, ๐ ๒๒๒๐ ๔๓๓๔, ๐ ๒๒๒๐ ๔๔๔๔ หรือ www.rialway.co.th
• หาดพัทยา มีความยาวประมาณ ๓ กิโลเมตรเศษ มีถนนเลียบชายหาดที่ร่มรื่น ชายหาดทางด้านเหนือเป็นบริเวณที่ค่อนข้างเงียบสงบ นักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำนั่งพักผ่อน หรือเล่นกีฬาทางน้ำต่าง ๆ ส่วนชายหาดช่วงกลางไปจนถึงสุดหาดทางด้านใต้ เป็นบริเวณที่มีธุรกิจการบริการหนาแน่น ทั้งแหล่งอาหาร เครื่องดื่ม ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึก ตลอดจนแหล่งบันเทิงเริงรมย์ต่าง ๆ มากมาย
• เขาพระตำหนัก หรือ เขาพระบาท ซึ่งเป็นภูเขาเตี้ย ๆ คั่นระหว่างหาดพัทยาใต้กับหาดจอมเทียน บนยอดเขาเป็นที่ตั้งของวัดเขาพระบาท อนุสาวรีย์พระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ และจุดชมวิว ซึ่งเปิดให้ขึ้นไปชมได้ระหว่างเวลา ๐๗.๐๐-๒๒.๐๐ น จากจุดนี้จะแลเห็นทัศนียภาพโค้งอ่าวของบริเวณเมืองพัทยาได้สวยงามมาก บริเวณเชิงเขาพระตำหนักมี สวนเฉลิมพระเกียรติ ถนนพระตำหนัก มีเนื้อที่ประมาณ ๑๕ ไร่ เป็นสวนสาธารณะสำหรับพักผ่อนออกกำลังกาย สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในมหามงคล สมัยเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ และใกล้ ๆ จะเป็นที่ตั้งของสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 3
• หาดนาจอมเทียน ตั้งอยู่ทางทิศใต้อยู่หางจากตัวเมืองพัทยาประมาณ ๔ กิโลเมตร ชายหาดมีความยาว ๖ กิโลเมตร มีถนนที่ร่มรื่นเลียบชายหาดโดยตลอด หาดนาจอมเทียนเป็นหาดที่เงียบสงบ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศนิยมเดินทางไปพักผ่อน เล่นน้ำ และกิจกรรมกีฬาทางน้ำ
• หาดวงพระจันทร์ อยู่ทางด้านทิศเหนือของอ่าวพัทยา ชายหาดมีความยาวประมาณ ๑ กิโลเมตรเศษ เป็นหาดที่เงียบสงบ เหมาะที่จะเล่นน้ำ และพักผ่อน
• ปราสาทสัจธรรม ตั้งอยู่บริเวณแหลมราชเวช ตำบลนาเกลือ เมืองพัทยา ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ ๑๒ เป็นปราสาทไม้ริมทะเลที่อลังการตระการตา งดงามด้วยประติมากรรมและลวดลายแกะสลักที่สะท้อนให้เห็นถึงโลกทัศน์ ภูมิปัญญา คุณธรรมและปรัชญาของคนในโลกตะวันออก เริ่มก่อสร้างเมื่อปี ๒๕๒๔ โดยคุณเล็ก วิริยะพันธ์ ผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ ปราสาทสัจธรรมสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะเข้ามาปะปน ใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ นับเป็นงานสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแห่งศตวรรษ ผู้สนใจสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ น. ค่าเข้าชมท่านละ ๕๐๐ บาท หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๖ ๗๒๒๙, ๐ ๓๘๓๖ ๗๘๑๕
• อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้พัทยา ตั้งอยู่เลขที่ตำบลหนองปลาไหล จากถนนสุขุมวิทบริเวณนาเกลือมีป้ายบอกทางแยกหลัก กิโลเมตรที่ ๑๔๐ ใกล้สะพานลอยหน้าวัดสว่างฟ้า เข้าไปตามถนนชัยพรวิถี (ทางหลวงหมายเลข ๓๐๒๔) เส้นทางเดียวกับอ่างเก็บน้ำมาบประชัน ประมาณ ๕ กิโลเมตร มีเนื้อที่กว่า ๑๐๐ ไร่ ภายในบริเวณตกแต่งอย่างสวยงามด้วยหินรูปร่างสวยงามแปลกตา และไม้ดัด ที่น่าสนใจ คือ ต้นไม้ที่กลายเป็นหินมีอายุนับล้านปี และไม้ดัดไทยที่มีอายุ ๒๐๐ ปี มีฟาร์มจระเข้ทั้งน้ำจืดและน้ำเค็ม นกนานาชนิดเช่น นกกระจอกเทศ นกกระเรียน นกอีมู สัตว์หายากเช่น ม้าแคระ ม้าเผือก หมีเผือก จระเข้เผือก มีการแสดงจับจระเข้ การแสดงมายากล และสัตว์แสนรู้ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา ๐๘.๓๐-๑๘.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๘๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๓๐๐ บาท เด็ก ๑๐๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๔ ๙๓๔๗-๙ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๗๙-๕๐๓๓, ๐ ๒๙๔๑-๓๒๕๑-๓ หรือ www.thaistonepark.org
• เมืองจำลองพัทยา ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิทก่อนเข้าตัวเมืองพัทยา ตรงหลัก กม. ที่ ๑๔๓ เป็นสถานที่จำลองปูชนียสถาน และโบราณสถาน ที่สำคัญทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ย่อส่วนในอัตรา ๑ ต่อ ๒๕ เช่น วัดพระศรีรัตนศาสดาราม อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย สะพานข้ามแม่น้ำแคว สะพานพระราม ๙ ปราสาทหินพิมาย สะพานทาวเวอร์บริดจ์ หอไอเฟล หอเอนปิซา เทพีสันติภาพ ฯลฯ เปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐-๒๒.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๒๕๐ บาท เด็ก ๑๒๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๑๖๒๘, ๐ ๓๘๗๒ ๖๒๐๑-๓, ๐ ๓๘๗๒ ๗๓๓๓
• สวนป่าพนารักษ์ ตั้งอยู่บนถนนพรประภานิมิตร เข้าทางเดียวกับสนามกอล์ฟสยามคันทรี่คลับ โดยแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิท ตรงบริเวณหลัก กม. ที่ ๑๔๕ เข้าไปประมาณ ๕ กิโลเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น ภายในมีสระว่ายน้ำ บ่อตกปลาพร้อมอุปกรณ์ตกปลาให้เช่า สนามกอล์ฟ และที่พัก อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ ๑๐ บาท เด็ก ๕ บาท ชาวต่างประเทศ ๓๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๔ ๙๖๐๕-๖
• หมู่บ้านช้างพัทยา ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๔๘/๑๒๐ หมู่ ๗ ตำบลหนองปรือ จากถนนสุขุมวิทเข้าถนนพรประภานิมิตร มาประมาณ ๕ โลเมตร และเลี้ยวขวาเข้าเส้นทางไปมาบยายเลีย ๒ กิโลเมตร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชาวต่างประเทศให้ความสนใจ เนื่องจากได้รับความรู้เกี่ยวกับชีวิตของช้างและชมวิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันของคนกับช้าง เช่น การให้อาหาร ช้างสอนคน คนฝึกช้างให้ทำงาน ซึ่งจะมีระหว่างช่วงเวลา ๑๔.๓๐-๑๖.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา ๕๐๐ บาท เด็ก ราคา ๔๐๐ บาท ใช้เวลาการชม ๑.๓๐ ชั่งโมง การนั่งช้างชมทัศนียภาพภูเขา และทะเลสาบ ใช้เวลา ๑ ชั่วโมง มี ๔ รอบ ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๕.๓๐ น. อัตราค่านั่งช้าง ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา ๙๐๐ บาท เด็ก ราคา ๗๐๐ บาท การขี่ช้าง เดินป่า ล่องแพ นั่งเกวียน ใช้เวลาประมาณ ๓.๕ ชั่วโมง มี ๒ รอบ คือ เวลา ๑๐.๐๐ น. และ ๑๕.๓๐ น. อัตราค่านั่งช้าง ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ราคา ๑,๘๐๐ บาท เด็ก ราคา ๑,๒๐๐ บาท สอบถามราบละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๘๒๔ ๙๘๑๕, ๐ ๓๘๒๔ ๙๘๕๓, และที่โรงแรมทรอปิคานา เคาน์เตอร์หมู่บ้านช้าง โทร. ๐ ๓๘๓๖ ๑๘๖๘, ๐ ๓๘๔๒ ๘๖๔๕-๘ www.elephant-village-pattaya.com, E-mail: info@elephant-village-pattaya.com
• สวนกล้วยไม้ศิริพร ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๒๓๕/๑๔ หมู่ ๕ ถนนเนินพลับหวาน ตำบลหนองปรือ จากถนนสุขุมวิทให้เลี้ยวซ้ายเยื้องกับทางแยกไฟแดงพัทยากลาง เข้าไปประมาณ ๘๐๐ เมตร ภายในสวนจะมีกล้วยไม้นานาชนิดให้ชมและเลือกซื้อพันธุ์ไม้ได้ อาทิ พันธุ์ปอมปาดัว แวนด้า โกลเด้น ชาวเวอร์ แคทรียา สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๙๐๑๓, ๐ ๓๘๔๒ ๑๕๓๖
• ศูนย์ฝึก-สอนลิงพัทยา ตั้งอยู่ กม. ๑๕๑ ซอยชัยพฤกษ์ ถนนสุขุมวิท พัทยา มีโชว์วันละ ๕ รอบ คือ ๙.๐๐ น., ๑๑.๐๐ น., ๑๒.๐๐ น., ๑๔.๐๐ น. และ ๑๗.๐๐ น. ซึ่งจะมีการโชว์ต่าง ๆ หลายรายการ คือ การตีไก่ การโชว์ลิง การโชว์งูเห่า และงูหลาม เป็นต้น เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๗.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๑๐๐ บาท เด็ก ๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๒๕๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๗๕ ๖๓๖๗, ๐ ๓๘๗๕ ๖๕๗๐, ๐ ๑๘๑๓ ๕๘๖๒
• อุทยานสามก๊ก เป็น แหล่งท่องเที่ยวที่งดงามด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานไทย-จีน ในเนื้อที่ ๓๖ ไร่ ซึ่งริเริ่มขึ้นจากแนวคิดของคุณเกียรติ ศรีเฟื่องฟุ้ง นักธุรกิจเชื้อสายจีนชั้นนำของไทย มีการวางรูปแบบตามศาสตร์ของ ฮวงจุ้ยจีน ประกอบด้วย อาคาร ๕ ชั้น จัดแสดงภาพเขียนสีน้ำมันที่บันทึกเรื่องราวชีวิตของขงเบ้งและรูปปั้นกังไส ตัวเอกจากพงศาวดารในวรรณกรรมสามก๊ก ชั้นบนสุดเป็นหอพระแก้วและจุดชมวิว มีอาคารประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์พระแม่กวนอิมสลักจากหินอ่อนสูง ๔ เมตร รูปเทพเจ้ากวนอู และระเบียงจิตรกรรมซึ่งมีภาพวาดบนกระเบื้องเคลือบดินเผาบันทึกเรื่องราวตอน สำคัญของเรื่องสามก๊ก เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา ๑๐.๐๐-๑๗.๐๐ น. ค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ ๘๐ บาท เด็ก ๔๐ บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๑๕๐ บาท เด็ก ๘๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๑๔๒๘-๙ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๖๓๓ ๘๑๑๔-๕ www.3kingdomspark.com, E-mail: info@3kingdomspark.com
• ห้องแสดงศิลปะในขวดแก้ว ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท กม. ที่ ๑๔๕ ระหว่างพัทยากลางและพัทยาใต้ เป็นสถานที่จัดแสดงผลงานประดิษฐ์ในขวดแก้วแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นศิลปะที่เกิดจากความเพียรพยายามของนายปิเตอร์ เบย์เดอเลย์ ชาวฮอลแลนด์ มีการจำลองสิ่งของต่าง ๆ เช่น พระพุทธรูป บ้านทรงไทย กังหันลม เก๋งจีน และประกอบเข้าไปอยู่ในขวดแก้วได้อย่างน่าอัศจรรย์ อีกทั้งได้ประดิษฐ์เรือย่อส่วนหลายรูปแบบฝีมือประณีต เปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๘.๓๐.๐๐-๒๐.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ ๑๐๐ บาท เด็ก ๕๐ บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๒๕๐ บาท เด็ก ๑๒๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๒๙๕๗, ๐ ๓๘๔๑ ๕๗๘๓
• ริบลียส์ เวิลด์ ออฟ เอนเตอร์เม้นท์ ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้า รอยัล การ์เด้น พลาซ่า ชั้น 3 พัทยา ถนนชายหาดพัทยา กิจกรรมการท่องเที่ยวต่าง ๆ ดังนี้
๑. พิพิธภัณฑ์ริบลี่ยส์ เชื่อหรือไม่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมเรื่องราวที่แปลกประหลาด และสิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ที่สะสมไว้จากทั่วโลกกว่า ๓๐๐ ชิ้น ของนายโรเบิร์ต ริปลียส์ ชาวอเมริกัน เช่น ม้าสามขา มนุษย์สี่ตา ศีรษะมนุษย์ย่อส่วน และพิพิธภัณฑ์ปลาฉลาม อัตราค่าเข้าชม คนไทย ๒๘๐ บาท เด็ก ๒๓๐ บาท ชาวต่างชาติ ๓๘๐ บาท เด็ก ๒๘๐ บาท
๒. โรงภาพยนต์ ๔ มิติ เป็นโรงภาพยนต์แห่งอนาคตในระบบ ๔ มิติที่ใช้ระบบพิเศษ ทำให้ผู้ชมรู้สึกราวกับอยู่ในเหตุการณ์จริง อัตราค่าเข้าชม ๒๐๐ บาท
๓. มหัศจรรย์เขาวงกต ชมแสง สี เสียง และ เอฟแฟคพิเศษทันสมัยถึง ๑๖ ห้อง ชมความสวยงามของมิติพิศวงและภาพลวงตา อัตราค่าเข้าชม คนไทย ๒๘๐ บาท ชาวต่างชาติ ๓๘๐ บาท
๔. โกดังผีสิง ผจญภัยในโกดังผลิตโลงศพที่ใหญ่ที่สุดในจำนวน 5 แห่งของโลก อัตราค่าเข้าชม คนไทย ๒๘๐ บาท ชาวต่างชาติ ๓๘๐ บาท
อัตราค่าเข้าชมเป็นแพ็กเกจรวม คนไทย ๑,๐๔๐ บาท เด็ก ๙๙๐ บาท ชาวต่างชาติ ๑,๓๔๐ บาท เด็ก ๑,๒๔๐ บาท และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๗๑ ๐๒๙๔-๘ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๒๔๗ ๐๗๗๗ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐-๒๓.๐๐ น.
• โรงภาพยนตร์พาโนรามา ตั้งอยู่ที่อาคารเดอะพาเลส ถนนพัทยาสาย ๒ เป็นโรงภาพยนตร์จอพาโนรามา ๓๖๐ องศาแห่งแรกของประเทศไทย ฉายภาพยนตร์ที่บันทึกทัศนียภาพจากแหล่งท่องเที่ยว โบราณสถาน ปูชนียสถานต่าง ๆ ของประเทศไทย สะท้อนถึงความสวยงามของเมืองไทยและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม บรรยาย ๕ ภาษา คือ ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี เปิดเวลา ๑๑.๐๐-๒๐.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชมทั้ง คนไทย และ ชาวต่างชาติ คนละ ๖๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ ติดต่อ บริษัท พัทยาเลเซอร์จำกัด โทร. ๐ ๓๘๓๖ ๑๓๗๒
• อัลคาซาร์ คาบาร์เร่ต์ ตั้งอยู่ที่ ๗๘/๑๔ ถนนพัทยาสาย ๒ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ๆ ละ ๓ รอบ คือ เวลา ๑๘.๓๐ น. ๒๑.๐๐ น. และ ๒๑.๓๐ น. วันเสาร์เพิ่มรอบ ๒๓.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๒๕๐ และ ๓๕๐ บาท ชาวต่างชาติ ๕๐๐ บาท และ ๖๐๐ บาท โทร. ๐ ๓๘๔๑ ๐ ๒๒๕-๗, ๐ ๓๘๔๒ ๘๗๔๖
• ทิฟฟานี โชว์ ตั้งอยู่ที่ ๔๖๔ หมู่ ๙ ถนนพัทยาสาย ๒ เปิดให้เข้าชมการแสดงทุกวัน ๆ ละ ๓ รอบ คือ เวลา ๑๘.๐๐ น. ๑๙.๓๐ น. และ ๒๑.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ๒๕๐, ๓๐๐ และ ๔๐๐ บาท ชาวต่างชาติ ๕๐๐, ๖๐๐ และ ๗๐๐ บาท โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๑๗๐๐-๕, ๐ ๓๘๔๒ ๙๖๔๒
เปิดหู เปิดตาโชว์ ตั้งอยู่ที่ถนนพัทยา สาย ๒ ตรงข้ามกับทิฟฟานี โชว์ เป็นการแสดงมายากล ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น อลาดิน, เดอะ เมอร์เมด, สาวน้อยไร้ร่าง, วันเดอร์ แลนด์ เป็นต้น การแสดงแต่ละผระเภทจะผ่านหมุนเวียนกัน อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๑๕๐ บาท เด็ก ๑๐๐ บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ ๖๐๐ เด็ก ๓๐๐ บาท โทร. ๐ ๓๘๓๖ ๒๐๗๗-๘๐ โทรสาร ๐ ๓๘๓๖ ๒๐๗๕
• สวนสนุกพัทยาปาร์ค ตั้งอยู่บริเวณ โรงแรมพัทยาปาร์คบีช รีสอร์ท มีสระน้ำวน สไลเดอร์สูงใหญ่ และเครื่องเล่นนานาชนิด และหอคอยพัทยาปาร์คสูง ๕๕ ชั้น ชั้นบนมีภัตตาคารหมุน และจุดชมวิว รวมทั้งมีกิจกรรมกระเช้าลอยฟ้า และกระโดดหอ เปิดบริการตั้งแต่เวลา ๑๑.๐๐-๒๐.๐๐ น. วันเสาร์ ถึง ๒๔.๐๐ น. ค่าเข้าชมหอคอยชาวไทย ๑๐๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๒๐๐ บาท ค่าบัตรเครื่องเล่น ๓ อย่าง ๑๕๐ บาท ผู้สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๖ ๔๑๑๐-๒๐ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๗๙ ๙๖๑๒-๔, ๐ ๒๙๔๑ ๒๐๕๕-๖
• เกาะล้าน อยู่ห่างชายฝั่งพัทยา ๗ กิโลเมตร นั่งเรือโดยสาร ๔๕ นาที หากเดินทางโดยเรือเร็วใช้เวลาเพียง ๑๕ นาที มีพื้นที่ประมาณ ๔ ตารางกิโลเมตร มีชายหาดที่สวยงามหลายแห่ง ส่วนใหญ่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเล่นน้ำ ดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำ เช่น เรือลากร่มชูชีพ เรือสกี สกู๊ดเตอร์ โดยเฉพาะที่หาดตาแหวน หาดทองหลาง หาดนวล และหาดเทียน ส่วนหาดแสมบรรยากาศเงียบสงบกว่าหาดอื่น บริเวณเกาะล้าน และเกาะเล็ก ๆ ที่อยู่รอบ ๆ เช่น เกาะครก และเกาะสากเป็นแหล่งตกปลาดำน้ำดูปะการัง ทั้งแบบน้ำลึกและน้ำตื้น และเป็นสถานที่ฝึกหัดเรียนดำน้ำ
• การเดินทาง มีเรือโดยสารออกจากท่าเรือพัทยาใต้ไปเกาะล้านทุกวัน เที่ยวไป ตั้งแต่เวลา๐๘.๐๐-๑๘.๓๐ น. เที่ยวกลับ มี ๓ รอบ เวลา ๑๒.๐๐ น. ๑๔.๐๐ น. และ ๑๗.๐๐ น. อัตราค่าเรือโดยสาร คนละ ๒๐ บาท ต่างชาติ ๔๐ บาท เรือจอดที่ท่าหน้าบ้าน หากจะเดินทางต่อไปชายหาดอื่นสามารถเช่าเรือหางยาว หรือรถรับจ้าง นอกจากนี้ยังมีบริการเรือเร็วให้เช่าอยู่ทั่วไปตามชายหาดพัทยา อัตราค่าเช่าประมาณ ๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ บาท สามารถแวะเที่ยวได้หลายหาดแล้วแต่จะตกลงกัน
• เกาะสาก อยู่ด้านทิศเหนือของเกาะล้าน ห่างจากเกาะล้านไปประมาณ ๖๐๐ เมตร เช่าเรือเร็วจากหาดพัทยา ๑,๕๐๐ บาท ใช้เวลา ๒๐ นาที เป็นเกาะขนาดเล็ก โค้งเป็นรูปเกือกม้าหงาย มีหาดทรายขาวนวลอยู่ ๒ หาด ทางด้านเหนือและใต้ มีทางเดินติดต่อกันได้ มีแนวปะการัง บนเกาะมีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยว
• วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร มีเนื้อที่กว้างขวางถึง ๓๖๖ ไร่ แยกซ้ายจากถนนสุขุมวิทตรง กม. ๑๖๐ ไปอีก ๕ กิโลเมตร เป็นวัดที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เพื่อถวายสมเด็จพระญาณสังวรฯ สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน และต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับเป็นองค์อุปถัมภก บริเวณทางเข้ามีศาลานานาชาติ ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมประจำชาติ ของประเทศต่าง ๆ ตั้งอยู่เรียงรายริมสระน้ำ ภายในบริเวณวัดมีมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง พระเจดีย์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธาตุของพระอรหันต์สาวก วิหารพระญาณเรศร์ เปิดเวลา ๐๘.๐๐-๑๖.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๓ ๗๕๐๖ นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่เป็นโครงการพระราชดำริ ศูนย์ฝึกเกษตรและบริเวณอนุรักษ์สัตว์ป่า สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๓ ๘๐๖๐
• อเนกกุศลศาลา (วิหารเซียน) ทางเข้าอยู่ก่อนถึงวัดวัดญาณสังวรารามเล็กน้อย มีทางแยกตรงสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำไปอีก ๘๐๐ เมตร เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมชั้นสูงของจีน ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๐ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ภายในเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงศิลปวัตถุ โบราณวัตถุอันมีค่า ได้แก่ เจ้าแม่กวนอิมหยกขาวองค์ใหญ่ รูปปั้นทหารและม้าจากสุสานจักรพรรดิจิ๋นซีฮ่องเต้ พระแท่นบัลลังก์ทองของจักรพรรดิ ภาพเขียนเก่า และเครื่องปั้นดินเผา เปิดให้เข้าชมทุกวันระหว่างเวลา ๐๘.๓๐-๑๗.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชมคนละ ๕๐ บาท โทร. ๐ ๓๘๒๓ ๘๓๖๗
อำเภอสัตหีบ
• โรงละครอลังการ ตั้ง อยู่ที่ถนนสุขุมวิท หลักกิโลเมตรที่ ๑๕๕ เป็นสถานที่ที่รวบรวมศิลปะ การแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ ของประเทศไทย แบ่งออกเป็น๓ ส่วน ได้แก่ โรงละคร ประกอบด้วย กำแพงแก้ว หอระฆังมงคล ภัตตาคาร “อลังการ” ภายในตกแต่งด้วยศิลปะสมัยใหม่ที่เชื้อเชิญให้ผู้มาเยือนได้เอมอิ่มกับอาหาร ไทยและนานาชาติ และลานวัฒนธรรมและร้านขายของที่ระลึก เป็นพื้นที่แสดงการละเล่นแบบไทย ๆ รวมถึงการสาธิตผลิตภัณฑ์ฝีมือภูมิปัญญาชาวบ้าน นอกจากนั้นยังมี ทะเลสาบ “อลังการ” ที่ประกอบด้วยวิถีชีวิตแบบไทย ๆ มีตลาดน้ำให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายซื้อหาผลไม้และขนมไทยได้ โรงละคร “อลังการ” เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา ๑๗.๓๐-๒๓.๐๐ น. การแสดงเริ่มเวลา ๒๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. อัตราค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ ราคา ๑,๐๐๐-๑,๔๐๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐ ๓๘๒๕ ๖๐๐๐ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๒๑๖ ๑๘๖๙-๗๑, ๐ ๒๒๑๖ ๑๙๔๙
• พระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ ตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับทางไปวัดญานสังวราราม โดยแยกจากถนนสุขุมวิท บริเวณ กม. ๑๖๐ ไปอีก ๖ กิโลเมตร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักด้วยแสงเลเซอร์บนหน้าผาของเขาชีจรรย์ ศิลปสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง ๑๓๐ เมตร หน้าตักกว้าง ๗๐ เมตร มีชื่อว่า “พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา” สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุระบรรจุพระรัตนะบรมสารีริกธาตุ บริเวณโดยรอบตกแต่งเป็นสวนพักผ่อนหย่อนใจสวยงาม อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
• สวนนงนุช อยู่ห่างจากปากทางเข้าพัทยาใต้ประมาณ ๑๘ กิโลเมตร โดยแยกซ้ายจากถนนสุขุมวิท บริเวณ กม. ๑๖๓ เข้าไปประมาณ ๓.๕ กิโลเมตร เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในเนื้อที่ ๑,๕๐๐ ไร่ ภายในมีสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาชนิด เช่น กล้วยไม้ เฟิร์น สับปะรดสี สวนไม้พุ่มไม้ดัด สวนหิน ตะบองเพชร และปาล์มจากทั่วทุกมุมโลก ที่พักเป็นเรือนไม้สักทรงไทย มีห้องประชุมสัมมนา สวนสัตว์ และศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย ประกอบด้วยการฟ้อนรำพื้นเมือง ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว กีฬาพื้นบ้าน และการแสดงของช้าง เปิดแสดงทุกวัน วันละ ๔ รอบ คือ เวลา ๐๙.๔๕ น. ๑๐.๓๐ น. ๑๕.๐๐ น. และ ๑๕.๔๕ น. วันหยุดเพิ่มรอบ ๑๒.๑๕ น. อัตราค่าผ่านประตู คนละ ๑๐๐ บาท ค่าผ่านประตูและรวมดูการแสดง คนไทย ๑๙๙ บาท ชาวต่างชาติ ๔๐๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๙๓๒๑, ๐ ๓๘๔๒ ๒๙๕๘ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๒๕๑ ๒๑๖๑, ๐ ๒๒๕๒ ๑๗๘๖
• บางเสร่ เป็นชุมชนหมู่บ้านประมง อยู่ห่างจากพัทยาประมาณ ๑๖ กิโลเมตร แยกขวาจากถนนสุขุมวิทบริเวณ กม. ๑๖๔ เข้าไปประมาณ ๒ กิโลเมตร ทางด้านใต้ของบางเสร่จะเป็นอ่าวน้ำลึกซึ่งเหมาะแก่การตกปลา ปลาที่ชุกชุมมาก คือ ปลาปะการัง หรือ ปลาเก๋า ส่วนทางเหนือมีหาดทรายสวยงามพอสมควร เล่นน้ำได้ มีเรือให้เช่าไปตกปลา ที่บางเสร่มีร้านอาหารทะเลอร่อยอยู่หลายร้าน
• วัดสัตหีบ หรือ วัดหลวงพ่ออี๋ ตั้งอยู่ในตัวอำเภอสัตหีบ ด้านหลังวัดติดทะเล สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๕ โดยหลวงพ่ออี๋หรือพระครูวรเวทมุนี ซึ่งมีความรู้ทางด้านวิปัสสนา เป็นที่พึ่งพิงของชาวบ้านในยามยาก ชาวบ้านจึงเคารพศรัทธามากและพร้อมใจกันสร้างรูปหล่อขนาดเท่าองค์จริง ประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถ
• หาดเตยงาม เดิมชื่อ อ่าวตากัน ตามประวัติการตั้งฐานทัพเรือสัตหีบ ทางเข้าอยู่ด้านหน้าฐานทัพเรือและหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เป็นหาดทรายขาวสวยงามและสะอาด เพราะได้รับการดูแลอย่างดีจากทหารเรือ เปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนในช่วงวันหยุด
• หาดดงตาล เป็นหาดที่สวยงาม โค้งมนไปตามขอบอ่าวสัตหีบตั้งแต่ที่ว่าการอำเภอสัตหีบเข้าไปในกองเรือยุทธการ เรียงรายไปด้วยต้นตาลซึ่งขึ้นอยู่ ณ ที่นี้มาช้านาน อันเป็นที่มาของชื่อชายหาดแห่งนี้
• หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่สวยงามอยู่ในความดูแลของหหารเรืออยู่ใกล้โรงเรียนชุมพลทหารเรือ มีบริการที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๓ ๖๑๘๗ ต่อ ๒๒๐๑-๒
• หาดนางรำ อยู่ใกล้กับท่าเรือจุกเสม็ดหรือท่าเรือพาณิชย์สัตหีบ เป็นหาดยาวประมาณ ๒๐๐ เมตร เหมาะสำหรับเล่นน้ำและพักผ่อนหย่อนใจ บริเวณมีร้านอาหารและที่พักของสโมรสรทหารเรือ สุดปลายหาดคือแหลมปู่เจ้าประดิษฐานศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
• หาดเทียนทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่อยู่ในความดูแลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งของกองทัพเรือ เป็นหาดทรายสลับกับโขดหิน มีพื้นที่ยาวประมาณ ๙๐๐ เมตร เป็นหาดทรายที่เป็นจุดชมวิวในมุมกว้าง มีหน้าผารูปทรงแปลกตาและเห็นพระอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าได้ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไม้ทะเลหลายชนิดให้ศึกษา มีบริการเรือคายัคให้เช่า และมีร้านอาหารและเครื่องดื่มไว้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ต่อ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งของกองทัพเรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร.๐ ๓๘๒๔ ๕๗๖๐
• เรือรบหลวงจักรีนฤเบศร ตั้งอยู่ที่ท่าเรือน้ำลึกจุกเสม็ด ได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า “จักรีนฤเบศร” หมายถึง ผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี เป็นเรือที่ต่อในประเทศสเปน เมื่อปี ๒๕๓๗ เรือลำนี้มีทั้งหมด ๑๑ ชั้น มีความยาว ๑๘๒ เมตร กว้าง ๓๐.๕ เมตร เป็นเรือที่มียุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย มีระบบเรด้าห์ตรวจการณ์ระยะไกล ภารกิจที่สำคัญในยามสงคราม ทำหน้าที่เป็นเรือธง ควบคุมและบังคับบัญชากองเรือในทะเลทั้งหมด และยังเป็นเรือบรรทุกเครื่องบิน ควบคุมการปฏิบัติการป้องกันภัยทางอากาศอีกด้วย เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา ๐๙.๐๐-๑๖.๐๐ น. โดยไม่เสียค่าเข้าชม นักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศต้องทำหนังสือถึง ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ สัตหีบ ชลบุรี ๒๐๑๘๐ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๒๔๖๖ ๑๑๘๐ ต่อเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร
• ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลกองทัพเรือ เป็นแหล่งให้ความรู้ทางด้านชีววิทยาเกี่ยวกับวงจรชีวิตของเต่าทะเล สำหรับหน่วยงานราชการ และคณะต่าง ๆ ที่เข้าชมทางศูนย์ได้จัดวิทยากรบรรยายเพื่อให้ประชาชนและเยาวชนได้ชมวีดีทัศน์ นิทรรศการ และชมความน่ารักของเต่าทะเลที่บ่ออนุบาล เพื่อได้เกิดความรักและหวงแหนทรัพยากรเต่าทะเลของไทย ศูนย์ฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันไม่เว้นวันหยุด ตั้งแต่เวลา ๐๘.๐๐-๑๗.๐๐ น. การเข้าชมกรุณาติดต่อก่อนล่วงหน้า ได้ที่ หน่วยบัญชาการต่อสุ้อากาศยานและรักษาฝั่ง โทร. ๐ ๓๘๒๔ ๕๖๖๖ ต่อ ๐๖๖-๖๑๗๘ E-mail: seaturtle@navy.mi.th,๐ ๓๘๒๔ ๕๗๖๐, ๐ ๓๘๔๓ ๘๔๕๗
• หมู่บ้านช่องแสมสาร เป็นหมู่บ้านชาวประมงปลายแหลมสัตหีบ บริเวณหมู่บ้านมีที่พักหลายแห่ง นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อนตกปลากันมาก มีบริการเรือและอุปกรณ์ตกปลาให้เช่า โดยเฉพาะช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม เป็นช่วงที่ลมสงบ เหมาะแก่การตกปลา เช่น ปลาแดง ปลาเก๋า ปลาโฉมงาม ปลาฉลามโรนัน ปลาเกมส์ ปลาแชร์กั้ม
• การเดินทางโดยรถโดยสารจากกรุงเทพฯ สามารถขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยมาลงที่อำเภอสัตหีบ แล้วต่อรถสองแถวสายสัตหีบ-แสมสาร ซึ่งมีให้บริการระหว่างเวลา ๐๕.๓๐-๑๘.๓๐ น.
• สวนจุลกาลสถิตสถานบรรพชนสยาม เป็นสวนที่สร้างถวายสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตร อุดมศักดิ์ เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๘ ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๑ ตำบลพลูตาหลวง ภายในสวนประดิษฐานศษลและรูปปั้นของกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ บุคคลในประวัติศาสตร์ของชาติไทย รูปปั้นพระเกจิอาจารย์ในอดีต สวนเปิดให้เข้าทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๗.๐๐-๑๘.๐๐ น.
อำเภอพนัสนิคม
• พระพุทธมิ่งเมือง เป็น พระพุทธรูปปางมารวิชัย แกะสลักด้วยไม้ประดู่ เป็นศิลปะของชาวลาว สร้างในราวปี พ.ศ. ๒๓๗๑ เป็นการสร้างขึ้นของชาวลาวที่อพยพเข้ามาอาศัยอยู่ในละแวกนี้ เดิมประดิษฐานอยู่ในวัดร้าง ชื่อว่า “วัดผ่าเขาใหญ่” สันนิษฐานว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นเป็นวัดแรกในเขตพนัสนิคม ต่อมาเทศบาลเมืองพนัสนิคมได้มาปรับปรุงสถานที่และบริเวณวัดร้างพร้อมดำเนิน การก่อสร้างวิหารเป็นที่ประดิษฐานองค์พระประธาน ณ ที่ตั้งอุโบสถเดิม ปัจจุบันอยู่ใกล้กับศาลาประชาคมเทศบาลเมืองพนัสนิคม
• หอพระพนัสบดี ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ตรงข้ามศาลาเทศบาลเมืองพนัสนิคม ถนนเมืองเก่า ซอย ๑ เป็นที่ประดิษฐานพระพนัสบดีซึ่งจำลองจากองค์จริง เป็นพระพุทธรูปยืนปางประทานพร สมัยทวารวดีที่สง่างามมาก อายุประมาณ ๑,๒๐๐- ๑,๓๐๐ ปี แกะสลักอย่างประณีตจากหินดำเนื้อละเอียด ประทับยืนบนหลังสัตว์ที่มีลักษณะผสมกันระหว่างครุฑ โค และหงส์
• วัดชุมแสงศรีวนาราม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑ ตำบลหนองนาง อยู่ห่างจากตลาดพนัสนิคมผ่านตลาดทุ่งเหียงไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข ๓๒๘๔ ประมาณ ๑๓ กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไปอีก ๒ กิโลเมตร วัดนี้เดิมชื่อว่า “วัดใหม่ยางงาม” จุดเด่นของวัดนี้คือ ศาลาการเปรียญ ที่ใช้เป็นที่ประชมสงฆ์และพิธีทางศาสนา ที่ก่อสร้างโดยใช้ดินเผามาประยุกต์เป็นรูปทรงทันสมัย ชื่อ อาคารมาบุญครอง และโบสถ์ที่มีภาพเขียนปริศนาธรรมที่น่าสนใจมาก
• วัดหลวงพรหมวาส ตั้งอยู่ที่บ้านคลองหลวง ตำบลวัดหลวง ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ตามเส้นทางหมายเลข ๓๑๕ อยู่ด้านขวา จากปากทางเข้าไปประมาณ ๗๐๐ เมตร ในอดีตวัดนี้เคยเป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา เป็นแหล่งอาศัยของค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากซึ่งมาอาศัยตามต้นไม้ในวัดเป็นเวลานับร้อยปีแล้ว
• หลวงพ่อติ้ว วัดหัวถนน ห่างจากตัวอำเภอประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ตามเส้นทางพนัสนิคม-สระสี่เหลี่ยม สู่ตำบลหัวถนน เป็นที่ตั้งของวัดหัวถนน พระพุทธรูปลักษณะปางมารวิชัย แกะจากไม้แต้ว (ชาวลาวเรียกว่า ไม้ติ้ว) พอถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในวันที่ ๑๙ เมษายนของทุกปี จะมีการแห่องค์หลวงพ่อติ้วไปรอบหมู่บ้าน โดยเชื่อกันว่าจะช่วยดลบันดาลให้ประสบกับสิ่งที่หวังไว้ทุกประการ
• สระสี่เหลี่ยม ตั้งอยู่หมู่ที่ ๖ ตำบลสระสี่เหลี่ยม การเดินทางจากพนัสนิคมใช้เส้นทางสายพนัสนิคม-สระสี่เหลี่ยม ผ่านวัดหัวถนนไปสู่บริเวณสระน้ำโบราณสระสี่เหลี่ยมซึ่งขุดลงไปในศิลาแลง ตามตำนานกล่าวว่าเป็นสระที่พระรถในเรื่องพระรถเมรีใช้เป็นที่ให้น้ำไก่ เมื่อคราวที่นำไก่ออกตีเพื่อเลี้ยงนางสิบสองและได้เดินทางมาตีไก่ถึงบริเวณนี้
• วัดโบสถ์ ตั้งอยู่ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ตำบลวัดโบสถ์ โดยเดินทางจากสี่แยกพนัสนิคมไปตามถนนสุขประยูร ประมาณ ๖ กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดอยู่ทางซ้ายมือ วัดโบสถ์เป็นวัดเก่าแก่ภายในมีสระน้ำโบราณ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแล้ว
• วัดหลวงพรหมวาส ตั้งอยู่ที่ตำบลวัดหลวง ริมถนนสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ใช้เส้นทางเดียวกับทางไปวัดโบสถ์ วัดนี้เคยเป็นสถานที่ทำพิธีถือน้ำพิพัฒสัตยา ภายวัดมีบริเวณกว้างขวางและร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีค้างคาวแม่ไก่จำนวนมากเกาะอยู่ตามต้นไม้ เต็มไปหมด
• วัดใต้ต้นลาน อยู่ที่ตำบลไร่หลักทอง เส้นทางสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๔๘ มีสถาปัตยกรรมฝีมือช่างท้องถิ่นที่น่าสนใจ ทั้งศาลาการเปรียญไม้เก่าแก่ เสาหงส์คู่ และปูนปั้นรูปยักษ์หน้าอุโบสถ พื้นอุโบสถปูด้วยกระเบื้องกังไสเก่าแก่ของจีน และมีหอไตรกลางน้ำสร้างด้วยไม้สัก
• ตลาดเครื่องจักสาน ตั้งอยู่บริเวณถนนเกาะแก้ว ซึ่งเป็นย่านตลาดเก่าของพนัสนิคม มีร้านค้าบ้านเรือนไม้แบบเก่าหลายหลัง จำหน่ายข้าวของเครื่องใช้ที่จักสานด้วยไม้ไผ่ ซึ่งเป็นหัตถกรรมขึ้นชื่อของพนัสนิคม เช่น ฝาชี กระจาด หมวก กระบุง ตะกร้า เป็นต้น
• หมู่บ้านจักสาน ตั้งอยู่หมู่ที่ ๑-๑๑ ตำบลไร่หลักทอง แต่ที่มีการทำกันมากได้แก่ หมู่ที่ ๑๐ บริเวณวัดเกาะแก้วคลองหลวง อยู่ห่างจากตัวอำเภอตามเส้นทางสายพนัสนิคม-ฉะเชิงเทรา ประมาณ ๔ กิโลเมตร แล้วแยกขวาเข้าไปอีก ๔ กิโลเมตร การจักสานจำนำไม้ไผ่มาสานเป็นกระเป๋าถือสตรี ตะกร้า กระบุง ชุดเชี่ยนหมาก เป็นต้น มีสีสันและรูปแบบที่สวยงามทันสมัย และสำหรับผู้ที่สนใจสามารถซื้อได้ที่บริเวณร้านค้าด้านหลังตลาดสดเทศบาล (ตลาดเก่า)
อำเภอบ่อทอง
• เขาชะอางค์ อยู่ห่างจากตัวอำเภอไปประมาณ ๓๐ กิโลเมตร เป็นภูเขาหินปูนลูกโดดอยู่กลางพื้นที่ราบ เป็นแหล่งแร่ทองคำและแร่พลวงที่สำคัญ เขาชะอางค์ประกอบด้วย เขาชะอางค์ทรงเครื่อง เขาชะอางค์ห้ายอด และเขาชะอางค์โอน ซึ่งแต่ละเขาจะมีความสวยงามหลายแห่ง เช่น ถ้ำน้ำ ถ้ำค้างคาว ถ้ำลับแล ถ้ำมังกร
• ถ้ำเขาชะอางค์ทรงเครื่อง ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอบ่อทองไปทางทิศตะวันออก ไปประมาณ ๑๙ กิโลเมตร เป็นถ้ำใหญ่จุคนได้นับพันคน มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และมีค้างคาวอาศัยอยู่จำนวนมาก
• ถ้ำเขาชะอางค์ห้ายอด อยู่เลยเขาชะอางค์ทรงเครื่องไปอีก ๗ กิโลเมตร เป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีหินงอกย้อยจำนวนมาก ภายในแบ่งเป็นถ้ำเล็กถ้ำน้อยมากมาย
แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
• น้ำตกชันตาเถร อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ อยู่ห่างจากถนนสุขุมวิท ไปประมาณ ๑๕ กิโลเมตร ตามทางหมายเลข ๓๑๔๔ ทางไปวัดเขาไม้แดง มีป้ายบอกทางเป็นระยะ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมค่ายเยาวชนเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและเป็นแหล่งดูนก ผู้สนใจจัดกิจกรรมต้องติดต่อล่วงหน้าโดยทำหนังสือถึงหัวหน้าสถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาเขียว ตู้ ป.ณ. ๑๐ ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ๒๐๒๑๐
• อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในเขตพื้นที่กองทัพเรือสัตหีบ นั่งเรือจากท่าเรือกลางอ่าวบริเวณอ่าวดงตาลประมาณ ๔๕ นาที บนเกาะขามมีหาดทรายขาวสะอาดที่ยังคงสภาพธรรมชาติไว้อย่างสมบูรณ์ มีต้นจันผาขึ้นอยู่จำนวนมาก ลักษณะคล้ายเกาะสองเกาะเชื่อมต่อกันด้วยผืนดินที่ยื่นออกมา สามารถดำน้ำตื้นดูปะการังได้ ยังไม่เปิดให้ท่องเที่ยวได้โดยเสรีเนื่องจากเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ผู้สนใจสามารถติดต่อกองเรือป้องกันฝั่ง อำเภอสัตหีบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๓ ๑๑๗๗ ซึ่งมีบริการนำเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับ
• นั่งเรือชมประการัง ที่พัทยามีเรือดำน้ำและกึ่งดำน้ำที่นำนักท่องเที่ยวชมความงามของปะการังใต้ท้องทะเลบริเวณเกาะล้านและเกาะสาก มีบริษัทเอกชนที่ให้บริการ ได้แก่
• เรือพัทยาปะการังเซมิซับมารีน จุดลงเรือที่สำนักงานพัทยา เลขที่ ๑๒๕ ซอย ๔ ถนนชายหาด พัทยาเหนือ ชมความงามของปะการังใต้ท้องทะเลที่เกาะสาก และเกาะล้าน อัตราค่าโดยสาร ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๙๐๐ บาท เด็ก ๔๕๐ บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๑,๘๐๐ บาท เด็ก ๙๐๐ บาท ทุกที่นั่งพร้อมอาหารมื้อเที่ยง ๑ มื้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท พัทยาปะการัง จำกัด โทร. ๐ ๓๘๔๑ ๑๐๐๑ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๐๓ ๓๗๙๑
• เรือดำน้ำวิมานใต้ทะเล ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๒๖๖/๒๓-๒๔ หมู่ ๙ ถนนพัทยาเหนือ ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จุดลงเรืออยู่ที่ท่าเรือแหลมบารลีไฮ เป็นเรือดำน้ำที่ดำลงสู่ใต้น้ำด้วยความลึกกว่า ๒๐ เมตร เพื่อชมความงามของปะการังใต้ท้องทะเลที่เกาะสาก อัตราค่าโดยสารทั้งนักท่องเที่ยว ชาวไทย ผู้ใหญ่ ๙๙๐ บาท เด็ก ๗๔๐ บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ ๑,๘๐๐ บาท เด็ก ๗๔๐ บาท มีบริการ ๓ รอบ เวลา ๑๐.๓๐ น., ๑๑.๓๐ น. และ ๑๓.๓๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บริษัท วิมานใต้ทะเล จำกัด โทร. ๐ ๓๘๔๑ ๕๒๓๔, ๐ ๓๘๔๑ ๕๓๓๕
• ชลบุรี ฟรายอิ้ง คลับ อยู่ที่อำเภอบางพระ สามารถชมทิวทัศน์ในมุมสูงด้วยเครื่องบินเล็กพร้อมนักบินพาโฉบฉิวชมเมืองและทิวทัศน์โดยรอบได้ ๑ รอบ ใช้เวลา ๑๕ นาที่ ราคา ๑,๕๐๐ บาท/๑ คน ในระดับความสูง ๕๐๐-๑,๐๐๐ ฟุต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๙ ๘๒๐๒, ๐ ๑๓๗๗ ๘๔๔๗
• ซีเอ็มที ฟลายอิ้งคลับ อยู่ บริเวณ กม. ๑๐ ทางหลวงหมายเลข ๓๖ ทางไปสวนสัตว์เปิดเขาเขียว เป็นสถานที่ฝึกเรียนการบินขั้นพื้นฐานของอากาศยานเบาพิเศษ และเล่นกีฬาทางอากาศ เช่น เครื่องบินเล็ก เฮลิคอปเตอร์บังคับด้วยวิทยุ และเปิดบริการพาขึ้นนั่งชมทัศนียภาพทางอากาศสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป ค่าบริการ ๑,๕๐๐ บาท ต่อ ๑ รอบ (๑๕ นาที) เปิดให้บริการในวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๗ ๓๒๕๐-๗
• จังเกิ้ล บันจี้ จั๊ม ตั้งอยู่บริเวณหาดจอมเทียน กิโลเมตรที่ ๓ ใกล้กับบ่อตกปลา จอมเทียน ฟิชชิ่ง ปาร์ค เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความสนุกสนานตื่นเต้น เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ น. อัตราค่าบริการ ๑,๘๐๐ บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. ๐ ๖๓๗๘ ๓๘๘๐
• สวนสนุกพัทยาปาร์ค ตั้งอยู่ปลายหาดดงตาล ด้านเหนือของหาดจอมเทียน เป็นสถานที่เล่นสไลเดอร์ในสระน้ำวน กิจกรรมกระเช้าลอยฟ้า และกระโดดหอ จากตึกสูง ๕๕ ชั้น อัตราค่าบริการ ชาวไทย ๑๐๐ บาท ชาวต่างประเทศ ๒๐๐ บาท นอกจากนี้ยังมีเครื่องเล่นอื่น ๆ อีก ค่าบัตรเครื่องเล่นเป็นแพ็กเกจ ๓ อย่าง คนไทย ๑๕๐ บาท ชาวต่างชาติ ๓๐๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๖ ๔๑๑๐-๒๐ กรุงเทพฯ โทร. ๐ ๒๕๗๙ ๙๖๑๒-๔, ๐ ๒๙๔๑ ๒๐๕๕-๖
• สนามแข่งรถพีระอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต เป็นสนามแข่งรถจักรยานยนต์ระดับนานาชาติ มีเนื้อที่ประมาณ ๓๒๖ ไร่ ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข ๓๖ ห่างจากตัวเมืองพัทยา ๑๕ กิโลเมตร มีการแข่งขันเป็นประจำในวันเสาร์ และอาทิตย์ สอบถามรายละเอียดโทร. ๐ ๒๒๘๐-๓๕๔๗, ๐ ๒๕๒๒-๑๗๓๑-๘. ๐ ๒๙๗๑ ๖๔๕๐
• พัทยาคาร์ท สปีดเวย์ เป็นสนามแข่งรถเล็ก ตั้งอยู่ที่ ๒๔๘/๒ หมู่ที่ ๒ ถนนเทพประสิทธิ์ ซึ่งเป็นถนนเชื่อม ระหว่างถนนสุขุมวิทกับถนนพัทยาหาดนาจอมเทียน ห่างจากตัวเมืองพัทยาไปทางตอนใต้ประมาณ ๕ กิโลเมตร ภายในสนามมีทางวิ่งสำหรับนักขับมืออาชีพ และมือสมัครเล่นแยกจากกัน เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๐๙.๐๐-๑๘.๐๐ น. อัตรา ๑๐ นาที ราคา ๒๕๐, ๓๐๐ และ ๕๐๐ บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๒ ๒๐๔๔
• สนามแข่งรถเล็ก เค อาร์ โกคาร์ท กรังปรีซ์ ตั้งอยู่ที่ถนนเทพประสิทธิ์ ก่อนถึงหาดจอมเทียน เป็นสนามมาตรฐาน ระยะทาง ๑,๑๐๐ เมตร สำหรับมืออาชีพและสมัครเล่น ที่สนใจจะประลองความเร็วในการขับขี่ ค่าบริการ ๒๐๐, ๓๐๐ และ ๕๐๐ บาท/ ๑๐ นาที มีห้องประชุมย่อยและร้านอาหารบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๓๐ ๐๓๔๗-๙
• เลคแลนด์ วอเตอร์เคเบิ้ล สกี ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ตรงหลัก กม. ๑๕๐.๕ อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ ๕ กิโลเมตร เป็นสถานที่เล่นสกีน้ำของเมืองพัทยา ประกอบด้วยบึงน้ำจืดขนาดใหญ่ในเนื้อที่กว่า ๒๗ ไร่ มีชุดสกีสำหรับใช้สายเคเบิ้ลลาก นับเป็นกีฬาที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา ๑๐.๐๐-๒๑.๐๐ น. อัตราค่าเล่น ๒ ชั่วโมง ราคา ๓๐๐ บาท ทั้งวัน ราคา ๕๐๐ บาท มีร้านอาหารบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๒๓ ๒๖๙๐-๒
• โจโจ้ฮอร์สคลับ เป็นสถานที่ฝึกขี่ม้า ตั้งอยู่ที่ทางเข้าโรงแรมมารีน่าอินน์ ถนนนาเกลือ ซอย ๑๒ อัตราค่าเช่าขี่ม้า ๑ ชั่วโมง ราคา ๖๐๐ บาท, ๑๐ ชั่วโมง ๔,๐๐๐ บาท โทร. ๐ ๓๘๒๒ ๕๑๔๙ หรือ www.jojo@chonburi.ksc.co.th
• เดอะฮอร์สชูพ้อยท์ ตั้งอยู่ที่เลขที่ ๑๐๐ ตำบลโป่ง เป็นสถานที่ฝึกขี่ม้าและโรงแรมที่พัก ตั้งอยู่บนถนนพรประภานิมิตร (เข้าทางเดียวกับสยามคันทรี่คลับ) โดยแยกจากถนนสุขุมวิทตรงพัทยากลางไปประมาณ ๑๐ กิโลเมตร มีเนื้อที่ ๓๐๐ ไร่ มีสนามฝึกขี่ม้าทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง สนามครอสคันทรี และสนามโปโลที่ได้มาตรฐานสากล มีการจัดการแสดงศิลปะการบังคับม้าชั้นสูงหรือม้าเต้นรำ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๗๓ ๕๐๕๐ หรือ www.thehorseshoepoint.com
• ศูนย์กีฬายานยนต์ TIMC อยู่ห่างจากตัวเมืองพัทยาประมาณ ๒๐ นาที มีสนามแข่งรถทางเรียบแบบ Road Course ความยาว ๔,๒๐๐ เมตร และมีพื้นที่กีฬายานยนต์เอนกประสงค์ ขนาด ๕,๐๐๐ ตารางเมตร และนิคมอุตสาหกรรมสำหรับกีฬายานยนต์
• แฟร์เท๊กซ์ สปอร์ต คลับแอนด์ รีสอร์ท เป็นศูนย์อกกำลังกานครบวงจร อาทิ ปีนหน้าผาจำลอง ชกมวย โยคะ สควอช เทนนิส เป็นต้น ตั้งอยู่เลขที่ ๑๗๙/๒๐๑ หมู่ ๕ ถนน พัทยาเหนือ โทร. ๐ ๓๘๔๘ ๘๑๙๖ โทรสาร ๐ ๓๘๔๘ ๘๑๙๗
ข้อมูลงานประเพณี : สินค้าพื้นเมือง จังหวัดชลบุรี
งานประเพณี
• งานประจำปีจังหวัดชลบุรี เป็นงานประจำปีที่ชาวจังหวัดชลบุรีได้ร่วมกันจัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๕ โดยรวมงานนมัสการพระพุทธสิหิงค์ งานสงกรานต์ และงานกาชาดไว้ด้วยกัน โดยถือเอาประมาณกลางเดือนเมษายนของทุกปีเป็นวันจัดงานกิจกรรมของงานประกอบไปด้วย ขบวนแห่พระพุทธสิหิงค์ พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การละเล่นพื้นบ้าน การแสดงโขน ของกรมศิลปากร และการแสดงทางวัฒนธรรม นิทรรศการ และการออกร้าน ทั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริม และรักษาไว้ซึ่งขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น ตลอดจนปลูกฝังคุณค่าด้านศิลปวัฒนธรรมไว้สืบไป
• งานประเพณีวันไหล คือวันทำบุญขึ้นปีใหม่ของชาวทะเลในช่วงวันสงกรานต์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-20 เมษายน ของทุกปี ของชาวจังหวัดชลบุรี มีการทำบุญตักบาตร สรงน้ำ ก่อพระเจดีย์ทราย เล่นสาดน้ำ และกีฬาพื้นบ้าน ในจังหวัดชลบุรี พื้นที่ที่จัดงานประเพณีวันไหล ดังนี้
งานประเพณีวันไหล พัทยา-นาเกลือและงานกองข้าวนาเกลือ กำหนดจัดงานในวันที่ ๑๘-๑๙-๒๐ เดือนเมษายน ของทุกปี ณ บริเวณสวนสาธารณลานโพธิ์ นาเกลือ และวัดชัยมงคล พัทยาใต้ โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีรดน้ำดำหัว ขบวนแห่วันไหล การสาดน้ำกันอย่างสนุกสนานของประชาชน และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศ
• งานประเพณีสงกรานต์ศรีมหาราชาและงานประเพณีกองข้าว เป็นประเพณีอันเก่าแก่ของชาวเมืองชลบุรี ปัจจุบันมีที่อำเภอศรีราชาที่ยังคงรักษาประเพณีนี้อยู่ โดยจัดให้มีขึ้นเป็นประจำทุกปี ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ เมษายน เพื่อเป็นการบวงสรวงเทพเทวดาที่ปกป้องคุ้มครองมาตลอดปี กิจกรรมของงานประกอบด้วยการจัดขบวนแห่ที่นำโดยกลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่แต่งกายด้วยชุดไทย เข้าร่วมขบวน พิธีบวงสรวง และเซ่นสังเวยผี การสาธิตประเพณีกองข้าว การละเล่นพื้นบ้าน การสาธิต และจำหน่ายขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง
• งานประเพณีก่อพระทรายวันไหล บางแสน เป็นงานประเพณีที่ชาวตำบลแสนสุขได้ถือปฏิบัติมาตั้งแต่สมัยโบราณ เดิมเรียกว่า “งานทำบุญวันไหล” คือ การที่ประชาชนในหมู่บ้านต่าง ๆ ได้มาทำบุญร่วมกันเนื่องในเทศกาลวันสงกรานต์ หรือวันปีใหม่ของไทย จัดทุกวันที่ ๑๖-๑๗ เมษายน ของทุกปี โดยการนิมนต์พระทุกวัดที่อยู่ในเขตตำบลแสนสุขมาประกอบพิธีสงฆ์ มีการทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำ หลังจากนั้นก็เป็นกิจกรรมก่อพระเจดีย์ทราย เล่นสาดน้ำ การละเล่น และกีฬาพื้นบ้าน เป็นต้น
• งานบุญกลางบ้านและเครื่องจักสานพนัสนิคม เป็นงานประเพณีที่สืบทอดกันมาช้านานของชาวอำเภอพนัสนิคม ซึ่งจะจัดขึ้นในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ของสัปดาห์แรกเดือนพฤษภาคม หรือเดือน ๖ ของไทย ชาวบ้านจะนำอาหารมาร่วมกันทำบุญตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้พระภูมิเจ้าที่เจ้า กรรมนายเวร ญาติที่ล่วงลับไปแล้ว เพื่อขับไล่สิ่งเลวร้าย ให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล พืชพันธุ์ธัญญาหารสมบูรณ์ หลังพิธีสงฆ์จะมีการรับประทานอาหารร่วมกัน การละเล่นพื้นบ้าน และสาธิตการทำเครื่องจักสานพนัสนิคม
• งานประเพณีวิ่งควาย เป็นประเพณีเก่าแก่ของจังหวัดชลบุรี เริ่มต้นจากชาวบ้านในท้องที่ต่าง ๆ นำเวียนเทียมควายบรรทุกสินค้ามาจอดพักแถบบ้านท่าเกวียนในตัวเมืองชลบุรี ระหว่างนั้นได้นำควายมาวิ่งแข่งกันเพื่อความสนุกสนานจนกลายเป็นประเพณี โดยจัดขึ้นในเดือนตุลาคมของทุกปี นอกจากอำเภอเมืองแล้ว ยังมีการจัดที่อำเภอบ้านบึง อำเภอหนองใหญ่ ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ในวันงานชาวไร่ ชาวนาจะตกแต่งควายของตนอย่างสวยงาม และนำควายมาชุมนุมกันที่บริเวณสนามหน้าเมืองชลบุรี มีการแข่งขันวิ่งควาย ประกวดสุขภาพควาย ประกวดการตกแต่งควาย ประกวดนางงาม "น้องนางบ้านนา" เป็นต้น
สินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึก
จังหวัดชลบุรีมีสินค้าพื้นเมืองที่น่าซื้อหามากมายสำหรับเป็นของฝากทั้งอาหาร ข้าวของเครื่องใช้และของตกแต่งบ้าน
• ผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูป จำพวก กุ้งแห้ง ปลาเค็ม ปลาหมึกแห้งและปรุงรส กะปิ น้ำปลา ฯลฯ แหล่งจำหน่ายอยู่ที่ตลาดหนองมน
อาหารท้องถิ่น ได้แก่ ห่อหมก แจงลอน (เครื่องปรุงคล้ายห่อหมก ปั้นเป็นก้อนกลมเสียบไม้ย่าง) หอยจ๊อ และขนมหวานนานาชนิด ได้แก่ กล้วยฉาบ เผือกฉาบ ผลไม้กวน ผลไม้แช่อิ่ม ขนมจากและที่ขึ้นชื่อที่สุดคือข้าวหลาม ซึ่งมีความหวานมันเป็นที่รู้จักของนักชิมโดยทั่วไป ส่วน ผลไม้ ได้แก่ ขนุน สับปะรด และมะพร้าวอ่อน มีแหล่งจำหน่ายที่ตลาดหนองมน นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นบ้าน ได้แก่ แกงลาว (แกงข้นทำจากหน่อไม้และใบย่านาง) ขนมก้นถั่ว (คล้ายขนมถ้วยทำจากแป้งและกะทิ) มีขายในตลาดสดทรัพย์สินในตัวเมืองชลบุรี เมี่ยงก๋วยเตี๋ยวและก๋วยเตี๋ยวเป็ด อาหารขึ้นชื่อของอำเภอบ้านบึง
• ผลิตภัณฑ์จากหิน เช่น ครกหิน หินลับมีด หินแกะเป็นรูปสัตว์ สิงห์ ช้าง ม้า และอื่น ๆ จำหน่ายกันมากที่ อ่างศิลา ซึ่งอยู่ระหว่างทางจากชลบุรีไปบางแสน
• ผลิตภัณฑ์จากกระดาษใยสับปะรด ผลิตที่ตำบลหนองขาม อำเภอศรีราชา ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากใยกระดาษสับปะรด ได้แก่ กล่อง-ถุงใส่ไวน์ กล่องกระดาษทิชชู กล่องใส่เครื่องหอม อัลบั้มรูป แฟ้มใส่เอกสาร ชุดซองจดหมาย กล่องกระดาษโน้ต นอกจากนั้นยังผลิตกระดาษลูกผสม กระดาษจากใยกล้วย และกระดาษจากผักตบชวาเป็นต้น สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐ ๑๗๒๓ ๐๓๓๙
• เครื่องจักสานพนัสนิคม เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบสานต่อจากบรรพบุรุษชาวลาว มีชื่อเป็นที่รู้จักกันในความประณีต โดยเฉพาะของพื้นบ้าน คือ กระจาดและฝาชี แหล่งผลิตใหญ่อยู่ที่ตำบลไร่หลักทอง ห่างจากตัวอำเภอตามเส้นทางไปฉะเชิงเทรา ๔ กิโลเมตร มีจำหน่ายที่ ตลาดจักสาน บริเวณถนนเกาะแก้ว หลังตลาดสดเทศบาล (ตลาดเก่า) นอกจากนี้ ที่ศูนย์ส่งเสริมฝีมือการจักสานด้วยไม้ไผ่ ตามโครงการพระราชดำริ สอบถามรายละเอียดเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๓๘๔๖ ๑๓๑๓ ข้างโรงเจ ถนนอินทอาษา ก็มีการผลิตเครื่องจักสานซึ่งออกแบบสวยงาม ลวดลายละเอียดเป็นพิเศษ ส่งไปจำหน่ายที่ศูนย์ศิลปาชีพสวนจิตรลดา
• ผลไม้ดินปั้น ผลิตที่บ้านหนองพรหม หมู่ที่ ๑๒ ตำบลนาเริก อำเภอพนัสนิคม ตามเส้นทางสายพนัสนิคม-เกาะโพธิ์ เส้นทางหลวงหมายเลข ๓๒๔๖ ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร มีการปั้นดินเหนียวเป็นผลไม้ต่าง ๆ ขนาดย่อส่วนนำไปตากแดดจนแห้งแล้วนำไปทาสีให้เหมือนของจริง จากนั้นนำไปผึ่งให้แห้งสนิท เหมาะสำหรับเป็นของขวัญ หรือของประดับบ้าน
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 038) | |
สำนักงานจังหวัดชลบุรี | 0 3827 5034, 27 9434 |
เทศบาลเมืองชลบุรี | 0 3827 9407 ต่อ 112 |
ประชาสัมพันธ์จังหวัด | 0 3827 9448 |
ตำรวจท่องเที่ยว | 1155 |
ตำรวจท่องเที่ยว (พัทยา) | 0 3842 9371, 0 3842 5937 |
สถานีตำรวจภูธร (พัทยา) | 0 3842 0802–5 |
สถานีตำรวจภูธร(จอมเทียน) | 0 3823 2330-1 |
สถานีตำรวจภูธร (บางละมุง) | 0 3822 1800, 0 3822 1331 |
โรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา | 0 3842 7751-5 |
โรงพยาบาลเอกชล | 0 3827 3840, 0 3879 1790-9 |
โรงพยาบาลบางละมุง | 0 3842 9244 |
สนามบินอู่ตะเภา | 0 3824 5666180 |
สถานีเดินรถโดยสารประจำทาง | 0 3842 9877 |
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น